วันพุธที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ความปลอดภัยในการใช้อินเทอร์เน็ตและSocial Network

 ความปลอดภัยในการใช้อินเทอร์เน็ตและSocial Network

ความปลอดภัยในการใช้อินเตอร์เน็ต

ปัจจุบันการใช้งานระบบอินเทอร์เน็ตมีประโยชน์อย่างมาก จึงทำให้การใช้งานเป็นไปอย่างแพร่หลาย บุคคลที่ใช้อินเทอร์เน็ตจึงมีหลายจุดประสงค์ ทั้งใช้งานในสิ่งที่เป็นประโยชน์ และการใช้งานที่เป็นผลร้ายต่อบุคคลอื่น ดังนั้นสำนักงานตำรวจแห่งชาติจึงได้ทำการแปลและเรียบเรียงวิธีการใช้งาน อินเทอร์เน็ตเบื้องต้น สำหรับผู้ที่เริ่มใช้งาน เพื่อจะได้ปลอดภัย จากภัยร้ายบนอินเทอร์เน็ต
1. เมื่อเริ่มใช้อินเทอร์เน็ตเป็นครั้งแรก ควรปรึกษาผู้ใหญ่เกี่ยวกับแนวทางในการใช้ในการใช้อินเทอร์เน็ตต่อวัน และเมื่อผู้ใช้มีความรู้ และคุ้นเคยในการใช้งานจริงบ้างแล้ว จึงค่อยปรับเปลี่ยนแนวทางในใช้เวลาในการใช้อินเทอร์เน็ตให้เหมาะสมต่อไป และควรเขียนแนวทางในการใช้อินเทอร์เน็ตติดไว้ใกล้กับคอมพิวเตอร์ เพื่อความสะดวกในการจัดระบบการใช้อินเทอร์เน็ต
2. อย่าให้รหัสลับแก่ผู้อื่น
3. ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ใหญ่ ทุกครั้งที่ให้ข้อมูลส่วนตัวกับบุคคลอื่นในอินเทอร์เน็ต
4. ตรวจทานว่าได้พิมพ์ชื่อเว็บไซด์ถูกต้องเสียก่อน แล้วจึงกด Enter เพื่อจะได้เข้าเว็บไซด์ที่ต้องการได้ถูกต้อง
5. ปรึกษาผู้ใหญ่ ก่อนเข้าใช้ห้องสนทนาบนอิน เทอร์เน็ต เพราะว่าห้องสนทนาแต่ละห้องมีการสนทนาที่แตกต่างกัน บางห้องอาจไม่เหมาะสม
6. ถ้าพบเห็นข้อความ หรือสิ่งใด ที่ไม่เหมาะสม หรือ คิดว่าไม่ดีต่อการใช้อินเทอร์เน็ต ควรออกจากเว็บไซด์นั้น และแจ้งให้ผู้ใหญ่ทราบทันที
7. อย่าส่งรูปภาพของตนเอง หรือรูปภาพของผู้อื่น ให้คนอื่นทางอีเมลล์ ยกเว้นได้รับอนุญาตจากผู้ใหญ่เสียก่อน
8. ถ้าได้รับอีเมลล์ที่มีข้อความไม่เหมาะสมหรือทำให้ไม่สบายใจ ไม่ควรโต้ตอบ และควรบอกให้ผู้ใหญ่ทราบก่อนทันที
9. บนอินเทอร์เน็ต ทุกอย่างที่คุณเห็นไม่ใช่เรื่องจริงเสมอไป
10. อย่าบอกอายุจริงของคุณกับคนอื่น ถ้ามีความจำเป็นควรปรึกษาผู้ใหญ่ก่อน
11. อย่าบอกชื่อจริง และนามสกุลจริงกับบุคคลอื่น ถ้ามีความจำเป็นควรปรึกษา และขออนุญาตผู้ใหญ่ก่อน
12. อย่าบอกที่อยู่ ของคุณกับบุคคลอื่น
13. ปรึกษาผู้ใหญ่ก่อนทุกครั้งที่จะทำการลงทะเบียนใด ๆ บนอินเทอร์เน็ต
14. อย่าให้หมายเลขของบัตรเครดิตการ์ดของคุณกับบุคคลอื่น ถ้ามีความจำเป็นควรปรึกษาผู้ใหญ่ก่อน
15. ขณะที่ใช้อินเทอร์เน็ต ทุกอย่างขึ้นอยู่กับเรา คุณสามารถทำในสิ่งที่ตัวเองต้องการ และไม่ทำในสิ่งที่ไม่ต้องการได้
16. อย่าเปิดเอกสารหรืออีเมลล์หรือไฟล์ จากบุคคลอื่นที่ไม่รู้จัก เพราะอาจมีไวรัส หรือข้อมูลไม่เหมาะสม มากับเอกสารหรืออีเมลล์นั้น
17. ควรวางเครื่องคอมพิวเตอร์ไว้ในสถานที่ที่สะดวกในการดูแลเอาใจใส่ เช่น ห้องนั่งเล่น หรือ ห้องส่วนรวม
18. อย่าตัดสินใจที่จะไปพบบุคคลอื่นซึ่งรู้จักกันทางอินเทอร์เน็ตโดยไม่ได้รับอนุญาตจากผู้ใหญ่ และถ้ามีการนัดพบกันไม่ควรไปเพียงลำพัง ควรมีผู้ใหญ่หรือคนที่รู้จักหรือเพื่อนไปด้วย และควรนัดพบกันในที่สาธารณะ
19. บนอินเทอร์เน็ตข้อมูลต่าง ๆ ที่เราพิมพ์ลงไป บุคคลอื่นที่เราไม่รู้จักสามารถล่วงรู้ได้ จึงควรใช้อย่างระมัดระวัง
20. อย่าบอกเบอร์โทรศัพท์ของคุณกับบุคคลอื่น ในอินเทอร์เน็ต
21. พูดคุยกับผู้ใหญ่อย่างสม่ำเสมอ เกี่ยวกับสถานที่ กิจกรรม และสิ่งต่าง ๆ ที่พบเห็น บนอินเทอร์เน็ตที่ได้พบเห็น ระหว่างการใช้อินเทอร์เน็ต
22. ใช้ชื่อที่ต่างจากชื่อจริง และชื่อเล่นของตัวเองเพื่อใช้แทนตัวเอง ในขณะใช้อินเทอร์เน็ต
23. ควรปรึกษาผู้ใหญ่ ถ้าต้องการที่จะให้อีเมลล์แอดเดรสกับบุคคลอื่นในอินเทอร์เน็ต
24. ถ้ามีบุคคลอื่นที่ไม่รู้จักกันมาก่อน ถามเกี่ยวกับข้อมูลส่วนตัวมากเกินไป ไม่ควรให้ข้อมูล และควรหยุดการสนทนานั้น
25. อย่าบอกชื่อ ที่อยู่ของโรงเรียนของคุณ กับบุคคลอื่นบนอินเทอร์เน็ต
26. ขณะใช้อินเทอร์เน็ตไม่ควรเชื่อคำพูดหรือข้อมูลของบุคคลอื่น เพราะการปลอมตัวทำได้ง่าย และอาจไม่เป็นความจริง
27. อย่าทำสิ่งผิดกฎหมายบนอินเตอร์เน็ต เช่น ถ้าไม่เคยใช้บัตรเครดิต ก็ไม่ควรกรอกข้อมูลในการซื้อของ โดยใช้บัตรเครดิต บนอินเทอร์เน็ต
28. เมื่อมีใครบางคนให้เงินหรือของขวัญ ฟรี ๆ กับคุณ ควรบอกปฏิเสธ และบอกให้ผู้ใหญ่ทราบทันที
29. อย่าใช้คำไม่สุภาพ ขณะใช้อินเทอร์เน็ต
30. คุณสามารถออกจากอินเทอร์ได้ด้วยตัวเอง ถ้าไม่ต้องการใช้อินเทอร์เน็ต
ความปลอดภัยในการSocial Network
ใน ปัจจุบันการใช้ Social Network นับเป็นการสื่อสารหรือสังคมออนไลน์ที่เริ่มมีความนิยมมากขึ้นเป็นลำดับ ดังนั้นการใช้สื่อหรือเครื่องมือในการสื่อสารประเภทนี้ จึงอาจต้องมาเหลียวหน้าเหลียวหลังดูกันว่า เราควรใช้กันอย่างไรถึงจะปลอดภัย ยกตัวอย่างเช่น เพื่อนบ้านเราท่านหนึ่ง ในช่วงหยุดหลาย ๆ วันนี้จะเดินทางไปเที่ยวต่างจังหวัด จึงได้โพสต์บอกเพื่อน ๆ ที่สนิทในวงสนทนาออนไลน์ซะหน่อยจะได้รู้ ๆ กัน แถมช่วงไปเที่ยวก็ยังโพสต์รูปมาโชว์ให้เพื่อน ๆ ในกลุ่มให้เป็นที่อิจฉากัน ผลปรากฎว่าหลังกลับจากพักผ่อนหลายวันครั้งนี้ เพื่อนบ้านเราท่านนี้แทบจะเป็นลมเมื่อพบว่าบ้านถูกงัด ยกเค้าซะเรียบวุธ แถมพอนึกย้อนตนเองยังมีหน้าไปโพสต์บอกขโมยหรือโจรที่จ้องจะเข้างัดบ้าน ให้เข้ามาได้ถูกช่วงถูกเวลาซะอีก นึกแล้วเจ็บใจ ฉบับบนี้เราจะมาพูดกันถึง 10 ข้อ หลัก ๆ ควรระวังในการใช้สื่อหรือเครื่องมือประเภทสังคมออนไลน์ เช่น facebook, twitter หรืออื่น ๆ

1.ถ้ารักจะใช้ Social Network ก็ไม่ควรระบุ ข้อมูลส่วนตัวให้แสดงเกินความจำเป็น เช่น ว/ด/ป สถานที่เกิด เป็นต้น

ข้อมูลส่วนตัวที่สำคัญเหล่านี้ถือว่าเป็นช่องทางหนึ่งในการระบุตัวตนที่สำคัญอันหนึ่งทีเดียว บางคนอาจลงเพื่อให้เพื่อนรู้วันเกิดของเราและรู้สึกดีใจที่เพื่อน ๆ มาอวยพรวันเกิดให้เรา แม้จะอยู่ไกลกันคนละประเทศก็ตาม แต่ตรงนี้ควรพึงระวังอย่างยิ่ง มีผลดีก็ย่อมมีผลเสียไปในตัวพร้อม ๆ กัน ถ้าจำกันง่าย ๆ เวลาเขา verify หรือตรวจสอบตัวตนของเจ้าของบัตรเครดิต เวลาขอวงเงินเพิ่ม ขออนุมัติในการทำสิทธิต่าง ด้านธุรกรรมบัตรเครติด จะได้ยินเจ้าหน้าที่ถามกันบ่อย คือ ชื่อ นามสกุล วัน เดือน ปี เกิด เปิดบัญชีธนาคารกับธนาคารหรือไม่ ลองคิดดูสิครับ หากมีคนเก็บบัตรเราไปแล้วสวมสิทธ์ เพราะการเซ็นต์ชื่ออย่างที่เราทราบกัน สามารถปลอมแปลงกันได้แถมยังไม่ใคร่ใส่ใจเวลาเราเซ็นต์ชื่อกันเท่าไร ก็ลองคิดภาพต่อสิครับ มีรายงานจากสถาบัน Carnegie Mellon ได้ให้ข้อคิดว่าหากเราเปิดเผยข้อมูลเหล่านี้ก็เท่ากับเราเปิดประตูการเข้าถึงธุรกรรมด้านการเงินของบุคคลคนนั้นไปค่อนตัวแล้ว อีกเรื่องที่สำคัญคือเมื่อระบุ วันเดือน ปี เกิด เด็ก ๆ วัยรุ่นที่มีอายุน้อย ๆ ก็จะสามารถถูกล่อลวงได้ง่ายและเป็นจุดสนใจที่มิจฉาชีพสนใจ

2.วางแผนจะเดินทางไปท่องเที่ยวที่ไหน อย่าง ไร เมื่อไร ไม่จำเป็นต้องบอกหรือแสดงเอาไว้ใน Wall หรือ New Feed 

เมื่อไรก็ตามจะเดินทางไปพักผ่อนไม่ว่าไกลแค่ไหน ก็ไม่ควรเสนอข้อมูลล่วงหน้าไว้ให้ผู้ที่ไม่หวังดีกับเรา ได้รับทราบและวางแผนมาทำร้ายต่อบุคคลหรือทรัพย์สินของเรา เช่น “วันนี้ ไม่อยู่ ลาหยุดไปพักผ่อนกับครอบครัว ในวันสบาย ๆ กลับ 14 ธค. 53 นะค่ะ เพื่อน ๆ ” เท่านี้ก็รู้แล้ว ว่าเจ้าของบัญชีผู้ใช้นี้ไม่อยู่บ้าน ซึ่งบางครั้งมีถ่ายรูปในบ้าน สิ่งของต่าง ๆ ไว้ หรือมีของดีที่เอามาอวด มาโชว์ไว้ในเว็บ ก็เป็นจุดที่ดึงดูดความสนใจให้มิฉาชีพที่ไม่หวังดีกับเราติดตามพฤติกรรมของเราได้

3.ที่อยู่ บ้านที่ทำงาน ต่าง ๆ ไม่ควรนำมาแสดงไว้

ตรงไปตรงมาเลยครับ ถ้าคุณน้อยหน่า หน้าหว๊าน หวาน โพสต์ ไว้ว่า “ อาทิตย์นี้มาที่ลั้นลากันที่สมุย มาเลย ฟ้า สวย น้ำใส” หากผมเป็นโจรก็จะรู้เลยว่าคุณน้อยหน่าหน้า หว๊าน หวาน ไม่อยู่บ้านราวหนึ่งสับดาห์ แหมแถมยังระบุที่อยู่ไว้ให้เราอีก คิดดูครับว่าอะไรจะเกิดขึ้นตามมา ดังนั้นไม่ควรอย่างยิ่ง ที่จะระบุที่อยู่โดยละเอียดไว้ในสื่อประเภทนี้ ซื้อบ้านซื้อคอนโด ด้วยความดีใจถ่ายพื้นที่ต่าง ๆ ในบ้านมาให้เพื่อน ๆ ดูและดีใจ แต่ระวังว่าอาจนำไปสู่ช่องทางการเข้าถึงภายในบ้านแบบไม่รู้ตัวด้วยนะครับ จะโพสต์อะไรก็ต้องคิดกันนิดนึงครับ

4.ความเสี่ยงด้านพฤติกรรมทางสังคม

ข้อนี้อาจมองเห็นภาพไม่ชัดเจน ความเสี่ยงทางด้านพฤติกรรมทางสังคมบางครั้งผลกระทบจะกระทบต่อลูกหลาน เพื่อนรอบข้าง หรือแม้กระทั่งตนเอง เช่น การลงข้อความความคิดเห็นเกี่ยวกับสิ่งเสพติด เหล้า บุหรี แม้ในโทรทัศน์จะมีการแบนด์กันให้เห็น แต่ในเครือข่ายสังคมออนไลน์ยังไม่มีให้เห็น ดังนั้นข้อเสียคือการโฆษณาโดยไม่มีการควบคุม เด็กหรือวัยรุ่นอาจเกิดพฤติกรรมการเลียนแบบ ว่า สุรา เบียร์ บุหรี่ ยี่ห้อนี้ดีนะ อยากทดลองดูบ้าง อีกข้อหนึ่งซึ่งเริ่มมีตัวอย่างให้เห็นในต่างประเทศ มาเป็นบทเรียนให้เรารู้เท่าทันคือในเมื่อเราโพสต์ในเรื่อง ความเสี่ยงด้านพฤติกรรม บริษัทประกันสุขภาพหลาย ๆ บริษัทที่เราส่งเบี้ยประกันอยู่ จะขยันเข้ามาเก็บความเสี่ยงด้านพฤติกรรม ที่ผลต่อโรคต่าง ๆ ที่ผู้เอาประกันทำไว้ ทำให้ไม่สามารถเคลมประกันที่ตนเองส่งไว้ หรือถูกบริษัทประกันสุขภาพยกเลิกกรมทัณฑ์ประกันชีวิตประเภทนั้น ๆ ไป เนื่องจากตนเองได้สร้างหลักฐานด้านความเสี่ยงต่าง ๆ และเปิดเผยต่อสาธารณะไว้โดยไม่รู้ตัว

5.อย่าลืมว่าเมื่อเราสร้างบัญชีผู้ใช้ เท่ากับว่าเราให้ Password Clues ไปโดยไม่รู้ตัว 

ทุกครั้งที่เราสร้างบัญชีขึ้นใหม่ อย่าลืมว่าพาสเวิร์ดที่เราตั้ง มักจะมีตัวช่วยในการจำ บางครั้งการเลือกใช้ สื่อสังคมออนไลน์นั้นอาจต้องเลือกชุมชนที่มีความปลอดภัย ไว้เนื้อ เชื่อใจ เพราะพาสเวิร์ดหนึ่งอันที่เราสร้าง จะเป็นตัวคาดเดารหัสความปลอดภัยในธุรกรรมอื่น ๆ ที่ซับซ้อนกว่าของเราได้โดยไม่ยากเท่าไร ดังนั้นควรรู้จักเลือกและใช้อย่างมีวิจารณญาณ

6.ที่จอดรถหรือกิจกรรมต่าง ๆ ที่ทำเป็นประจำไม่ควรมาเผยแพร่ไว้

แน่นอนภัยร้าย เกิดได้ตลอดแต่ถ้าเราลดแหล่งข้อมูลที่สื่อออกไปลงบ้าง ชีวิตเราจะปลอดภัยมากขึ้น ทุกอย่างที่เราโพสต์เท่ากับเราบอกนิสัยของเราเข้าไปในสื่อเหล่านี้ ผู้ติดตามสามารถเฝ้าดูกิจกรรมของเรา หากจะโจรกรรมทรัพย์สิน รถหรือของมีค่าต่าง ๆ สามารถระบุตำแหน่งที่อยู่ประจำได้ ซึ่งจะทำให้เกิดความไม่ปลอดภัยที่เราอาจคลาดไม่ถึงทีเดียว บางครั้งปิดตัวเองในบางเรื่องหรือบางโอกาสก็จะสร้างความเป็นส่วนตัวและปลอดภัยมากขึ้น Charles Pavelites, ผู้ชำนาญการพิเศษของหน่วยงาน ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์จากอาชญากรรมทางอินเตอร์เนต ได้ยกตัวอย่างเช่น มีเด็กคนหนึ่งมักจะบอกว่า "แม่กำลังจะกลับบ้านแล้ว เดี๋ยวฉันจะต้องไปล้างจาน" มักจะบอกทุก ๆ วัน ในเวลาเดิมเสมอ มันเป็นการบอกเวลาที่ชัดเจนมาก เกี่ยวกับการเดินทางไปกลับของผุ้ปกครอง

7.นำเรื่องขององค์กร บริษัท ข้อมูลทางการเงินไปโพสต์ไว้ในสังคมออนไลน์

หากมีการโพสต์ บ่น เกี่ยวกับการทำงาน โดยไม่จำเป็น ต้องระวังนะครับ เพราะหัวหน้างาน และเพื่อนร่วมงานสามารถเข้าถึงข้อมูลของราได้จากการที่เราเพิ่มเพื่อนโดยไม่ระมัดระวัง เพราะความลับไม่มีในโลก ดังนั้นโพสต์เท่าที่จำเป็นจะปลอดภัยกว่า

8.ไม่ระบุชื่อบุตรหลาน ระบุภาพหรือติด tag ในรูปภาพมากเกินไป 

อาจทำให้สามารถเข้าถึงญาติสนิทมิตรสหายส่วนตัวของคุณได้โดยง่าย อันสร้างความไม่ปลอดภัยขึ้นในครอบครัวโดยไม่ได้ตั้งใจได้ ลด tag ลงบ้างจะปลอดภัยกว่านะครับ

9.การตั้งความเป็นส่วนตัว และการปล่อยให้ Facebook ค้นหาพบคุณได้จำกัดลงบ้าง

เพื่อป้องกันคนแปลกหน้าเข้าถึงหน้าข้อมูลของคุณ ให้ไปที่การค้นหาของ Facebook ให้เข้าไปตั้งที่ข้อมูลส่วนตัวและเลือกเฉพาะเพื่อนเท่านั้น ดังนั้นเพื่อนเท่านั้นที่จะค้นพบข้อมูลดังกล่าวและให้มั่นใจว่ากล่องข้อมูลสาธารณะไม่ได้ระบุให้เข้าถึงข้อมูลดังกล่าวได้

10.ไม่ควรให้เด็กใช้ Facebook โดยไม่ตรวจสอบควบคุม

แม้ว่า Facebook จะไม่อนุญาตให้เด็กอายุต่ำกว่าสิบสามขวบหรือยังไม่ถึงเกณฑ์ใช้งาน แต่หลายครั้งเด็ก ๆ ก็ทำการปลอมอายุเข้าไปใช้ได้ ถ้าคุณมีเด็กหรือวัยรุ่นในความปกครอง หากควบคุมไม่ได้ การใช้ Facebook วิธีการที่ดีที่สุดในกรณีนี้คือ ใช้เพื่อการตรวจสอบและควบคุมที่ดี ก็คือการที่คุณเข้าร่วมเป็นสมาชิกในกลุ่มเพี่อนของเขา หรือให้ใช้ email ของคุณแทนในการติดต่อระหว่างบัญชีของเขา เพื่อที่คุณจะได้รับข้อความหรือตรวจสอบการใช้งานของบุตรหลานได้อย่างต่อเนื่อง
สิบข้อเหล่านี้เป็นปัญหาที่พบบ่อย ๆ และหยิบยกมาเตือนชุมชนเครื่อข่ายสังคมออนไลน์ที่นิยมกันใช้กันมากในปัจจุบัน หากเราจะรับเพื่อนเพิ่มขอให้เช็คเสียก่อนให้ดี ๆ ว่าเป็นกลุ่มเราหรือไม่ ไม่ใช่เพียงแค่รูปร่างหน้าตาดีก็เพิ่มเข้ามา อย่าลืมว่าทุกครั้งที่เราส่งข่าวหรือโพสต์ข้อความ พึงระลึกว่าความเป็นส่วนตัวของเราก็จะน้อยลง ๆ ทุก ๆ นาที

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น